การแจ้งเกิด
การแจ้งเกิดเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งผู้มีหน้าที่ต้องดำเนินการแจ้งเกิดให้กับเด็กเพื่อประโยชน์ในการได้รับสิทธิตามกฎหมายจากภาครัฐ เพราะเมื่อเด็กเกิดมาย่อมไม่มีข้อมูลใดๆเกี่ยวกับตัวเด็กในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ทั้งไม่อาจดำเนินการให้มีข้อมูลเกี่ยวกับเด็กก่อนเด็กเกิดได้ หากไม่ดำเนินการแจ้งเกิด เด็กก็ไม่อาจได้รับสิทธิจากภาครัฐอย่างเต็มที่ ฉะนั้นแล้ว อย่าลืม...!ดำเนินการแจ้งเกิดให้กับเด็กตามขอบเขตที่กฎหมายได้กำหนด ดังต่อไปนี้
ผู้มีหน้าที่ดำเนินการแจ้งเกิด
1. บิดา
2. มารดา
3. เจ้าบ้าน
ตาม พระราชบัญญัติทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 มาตรา18 กำหนดให้เป็นหน้าที่ของบิดา มารดา หรือเจ้าบ้าน (เจ้าบ้าน คือ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครองบ้านอยู่ทั้งในฐานะเจ้าของบ้าน และผู้เช่า) เป็นผู้มีหน้าที่ดำเนินการแจ้งเกิด
กำหนดเวลา
บิดา มารดา หรือเจ้าบ้านต้องดำเินินการแจ้งเกิดให้กับเด็กภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่เด็กเิกิด หากไม่สามารถแจ้งเกิดภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวได้ด้วยมีเหตุจำเป็น ต้องดำเนินการแจ้งเกิดภายใน 30 วันนับแต่วันที่เด็กเกิด กล่าวคือ ขยายระยะเวลาให้อีก 15 วันภายหลังครบกำหนดระยะเวลา 15 วัน
(หากไม่ดำเนินการแจ้งเกิดภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท)
สถานที่แจ้งเกิด
1. กรณีเด็กเกิดที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักงานเขต
2. กรณีเด็กเกิดที่ต่างจังหวัด ได้แก่ ที่ว่าการอำเภอ
3. กรณีเด็กเกิดที่ต่างจังหวัด และอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาล ได้แก่ สำนักงานเทศบาล
หากไม่สะดวกในการแจ้งเกิด ณ ที่ทำการที่เด็กเกิดในท้องที่ จะแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่อื่นก็ได้
เอกสารหลักฐาน
1. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้ง
2. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
3. หนังสือรับรองการเกิดจากโรงพยาบาล (ท.ร.1/1) (กรณีที่เด็กเกิดในสถานพยาบาล)
ขั้นตอนการดำเนินการ
1. ยื่นคำร้อง (แบบท.ร.100) ต่อนายทะเบียนพร้อมหลักฐานการแจ้งเกิด
2. นายทะเบียนตรวจสอบความถูกต้อง กรอกข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์
3. นายทะเบียนลงชื่อในสูติบัตร และออกสูติบัตรซึ่งเป็นหลักฐานการเกิดให้กับผู้แจ้ง
หมายเหตุ : ในวันแจ้งเกิดผู้แจ้งต้องแจ้งชื่อของเด็กพร้อมกับการแจ้งเกิดด้วย ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. 2505
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น